Share

บทที่ 3 ตัวเลือกผู้สืบทอด   

"หลี่เฟิง นี่เธอ...หายดีแล้วหรือ?"

พอเห็ฯดวงตาสุกใสของหลี่เฟิง มือน้อยของฉินชิงก็ปิดปาก เอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ

"อืม ฉันหายดีแล้ว คุณภรรยา"

หลี่เฟิงมองไปทางฉินชิง เขาที่สังหารอย่างเด็ดขาดในสนามรบ เวลานี้กลับดวงตาแดงรื้น

ฉับพลัน ฉินชิงน้ำตาคลอเบ้า หลั่งไหลออกมาด้วยความยินดี

หลี่เฟิงโอบฉินชิงเอาไว้ในอ้อมอก หลายปีมานี้ ลำบากเธอแล้วจริงๆ

"เฮอะ! หายดีแล้วทำไมกัน!"

ฉินหลันหัวเราะเย็นชา "มันก็ยังเป็นคนไม่ได้เรื่องได้ราวอยู่ดีไม่ใช่เหรอ!"

พูดจบ ฉินหลันก็นั่งลงไปใหม่ ชี้ไปที่มุมเก้าอี้พับตะคอกขึ้นว่า "รีบไสหัวไปนั่งตรงนั้นได้แล้ว จะมอบเงินหมื่นล้านรึ ขำตายล่ะ!"

หลี่เฟิงเลิกคิ้ว กำลังจะอ้าปาก แต่กลับถูกฉินชิงห้ามไว้ ดึงเขานั่งลงมา

ทั้งครอบครัวนั่งลงบนเก้าอี้พับที่หัวมุม พอเห็นบนโต๊ะอื่นเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศ แต่บนโต๊ะพวกเขากลับเสิร์ฟเพียงบะหมี่สำเร็จรูปสี่ชาม

ผู้เฒ่าฉินที่หัวโต๊ะ มองบรรยาการที่คึกคักตรงหน้า ในใจก็เกิดความผึ่งผายขึ้น

"ทุกคนเงียบหน่อย ชั้นมีเรื่องจะประกาศ!"

คนทั้งหมดพอได้ยินก็หยุดคีบตะเกียบ

ผู้เฒ่าฉินพยักหน้าอย่างพอใจ เอ่ยขึ้นว่า "ข่าวการเข้ามาของเทียนเฟิงกรุ๊ปเมื่อคืนนี้ คิดว่าทุกคนคงรู้แล้ว"

"กลุ่มการลงทุนเทียนเฟิงกรุ๊ป เป็นกลุ่มระดับสูงของโลก เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่อหังการ ครั้งนี้มาปักหลักยังเมืองหลัน ถือเป็นโอกาสการล้างไพ่ครั้งใหญ่ของตระกูลต่างๆ ในเมืองหลันเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นโอกาสตระกูลฉินของพวกเราด้วย!"

"ตระกูลฉินของพวกเราตอนนี้แม้จะเป็นตระกูลชั้นสอง ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ แต่อันที่จิรงก็ถูกตระกูลอื่นๆ แซงหน้าได้ง่าย"

"ดังนั้น เทียนเฟิงกรุ๊ป จึงเป็นต้นขาที่พวกเราจำเป็นต้องกอดให้มั่นไว้!"

"ต่อให้กอดแค่ขนหน้าแข้งพวกเขาสักเส้นหนึ่ง ก็เพียงพอจะทำให้ตระกูลฉินของเราไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ถือว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น"

ผู้เฒ่าฉินยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ "ชั้นขอประกาศ! ลูกหลานตระกูลฉินของเรา ใครที่ได้รับการลงทุนจากเทียนเฟิงกรุ๊ป ชั้นจะยกหุ้นสิบเปอร์เซนต์ของกรุ๊ปให้ รวมถึง..."

"ตำแหน่งผู้จัดการใหญ่กรุ๊ปด้วย!"

ฮือฮา!

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ทุกคนฮือฮากันขึ้นมา

"หุ้นสิบเปอร์เซนต์ของกรุ๊ปก็ถือว่าเงินก้อนมหาศาลแล้วนะ! มีเงินก้อนนี้ หลังจากนี้อยากจะใช้จ่ายอย่างไรก็ไม่มีปัญหา!"

"แต่ที่สำคัญคือตำแหน่งผู้จัดการใหญ่กรุ๊ป นี่มันตำแหน่งเหนือคนนับหมื่นแต่อยู่ใต้คนเพียงคนเดียวเลยนะ!"

"แต่เรื่อนี้ก็ยากมากเลยนะ ได้ยินว่าตอนนี้ตระกูลมากมายทั้งเมือง ล้วนกำลังเข้าแถวกันที่หน้าประตูเทียนเฟิงกรุ๊ปด้วย..."

ตอนที่คนทั้งหมดกำลังวิพากษ์วิจารณ์ ฉินหลันก็ลุกขึ้นยืน

"คุณปู่ วางใจได้เลย การลงทุนนี้หนูจะเอามาให้ได้! หนูวานให้คุณชายฟางช่วยยื่นหนังสือโครงการไปแล้ว ไม่นานคงมีความคืบหน้า"

พอคำพูดนี้ออกไป คนทั้งหมดก็ตกตะลึง

หลังพิงต้นไม้ใหญ่มันก็เย็นสบายจริงๆ นั่นล่ะ...

คุณชายฟางจากปากของฉินหลัน ก็คือแฟนของเธอ ฟางจื่อหานคุณชายใหญ่ตระกูลฟางตระกูลชั้นหนึ่งแห่งเมืองหลัน

มีความช่วยเหลือจากฟางจื่อหาน การได้รับการลงทุนก็ไม่ใช่ง่ายเหมือนปอกกล้วยหรือ?!

"ดีดีดี! สมแล้วที่เป็นหลานสาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปู่ งานวันเกิดของหลานอีกสามวัน ปู่จะจัดให้ยิ่งใหญ่ไปเลย!"

ผู้เฒ่าฉินเอ่ยขึ้นอย่างเบิกบาน "ถ้าหากเสี่ยวหลันได้การลงทุนของเทียนเฟิงกรุ๊ปมา หลานก็จะเป็นผู้สือบทอดของตระกูลคนต่อไป!"

พอสิ้นเสียง ทั้งครอบครัวฉินชิงก็หน้าเปลี่ยนสี

คนในตระกูลฉินเหมือนกัน จะอ่อนไหวกับตำแหน่งผู้นำตระกูลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะครอบครัวฉินชิงในฐานะที่เป็นบ้านรอง

ครอบครัวฉินหลันมีฐานะเป็นบ้านใหญ่ ท่าทีต่อครอบครัวฉินชิงเดิมทีก็แย่มากอยู่แล้ว ถ้าหากคุณปู่ตายไป ฉินหลันกลายเป็นผู้นำตระกูล ครอบครัวพวกเขาเกรงว่าคงจบเห่แน่แล้ว

พอเห็นพ่อตาแม่ยายหน้าขาวซีด หลี่เฟิงก็ถามขึ้นว่า "คุณปู่ ถ้าฉินชิงได้รับการลงทุน ก็จะกลายเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปได้เหมือนกันใช่ไหม?"

ทั้งงานเงียบกริบ

พรวด

ฉินไห่ที่อยู่ไม่ไกลนักกลั้นหัวเราะไม่ไหว "หลี่เฟิง แกอาการกำเริบหรือไง ฉินชิงจะเอาอะไรไปได้การลงทุนนี้มา จะบอกว่าพึ่งพาคนบ้าอย่างแกน่ะนะ?"

"กินบะหมี่ของแกไปเงียบๆ ดีกว่า! คิดว่ากินมื้อนี้ไปแล้ว เดี๋ยวครอบครัวของแกก็คงได้หิวกันอีก"

ฉินหลันเชิดหน้า เอ่ยขึ้นอย่างหยามหมิ่น "คนบ้าอย่างแกเพิ่งจะหายดี คิดว่าคงจะไม่รู้ล่ะมั๊ง ฉินชิงเป็นหนี้ก้อนโตอยู่ วิ่งไปแจกยิ้มขอยืมเงินไปทั่ว ไม่รู้ว่าไปขายตัวยืมเงินมาบ้างหรือเปล่า"

"จริงด้วย อีกสามวันนี้ก็เป็นวันเกิดฉินชิงเหมือนกันนี่นา จนกรอบเสียขนาดนี้ เก็บเค้กบนพื้นกลับไปด้วยสิ อีกสามวันค่อยเอามากิน"

ทั้งงานหัวเราะครืน สายตาที่มองหลี่เฟิงกับฉินชิงเต็มไปด้วยความประชดประชัน

คำพูดน่าอับอายเช่นนี้ทำเอาฉินชิงน้ำตาตก สะอึกสะอื้นเอ่ยขึ้น "ฉินหลัน พี่มีน้ำใจหน่อยได้ไหม? เห็นๆ อยู่ว่าพี่แย่งบริษัทเดิมของหนูไป จากนั้นก็เอาบริษัทล้มละลายของพี่มายัดใส่มือหนู หนี้ที่หนูแบกอยู่ตอนนี้ มันก็เป็นเพราะพี่ทั้งนั้น..."

ฉินหลันตัดบททันที "ฉินชิง แกกล้าพูดจาส่งเดชหรือ ชั้นจะตบแกให้ฟันร่วงเลย! แกมันไม่มีประโยชน์เอง แล้วยังมาโทษชั้นอีกหรือ?!"

ทั้งสองคนสถานการณ์ตึงเครียด บรรยายการในบ้านพักตากอากาศตึงขึ้นมาทันที

"พอแล้ว พอแล้ว"

ผู้เฒ่าฉินที่หัวโต๊ะโบกไม้โบกมือ ออกมาห้ามทัพ พูดกับหลี่เฟิงว่า "หลี่เฟิง ถ้าหากฉินชิงได้รับการลงทุนจากเทียนเฟิงกรุ๊ป ชั้นจะชดใช้หนี้บริษัทของฉินชิงให้ แล้วจะเอาปันผลกำไรในตอนนั้นคืนให้พวกแกด้วย"

พอได้ยินเช่นนี้ สามีภรรยาหลิ่วฮุ่ยฟางก็สีหน้ายินดี

นับตั้งแต่ที่หลี่เฟิงหนีงานแต่งงาน ปันผลกำไรของครอบครัวพวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าฉินหักไว้ตลอด รวมๆ กันก็น่าจะหลายล้านหยวนอยู่

นี่ถ้าได้มา ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

แต่ทว่า ยังไม่ทันที่ความยินดีจะหายไปจากหน้าพวกเขา ผู้เฒ่าฉินก็เสริมเข้ามาคำหนึ่ง "แต่ก็มีเงื่อนไขว่า ฉินชิงต้องไปทวงหนี้เก่าจากพี่เป้ากลับมาให้ได้ก่อน!"

หลิ่วฮุ่ยฟางตะลึงงันไปทันที

คนไม่น้อยเองก็ความคิดสั่นเทิ้ม

พี่เป้า นั่นมันพวกอันธพาลที่ลุยจริงอัดจริงของเมืองหลันเลยนะ ก่อนหน้านี้คนของตระกูลฉินไปทวงหนี้ ก็เกือบถูกเล่นงานจนพิการ!

เงื่อนไขที่ท่านผู้เฒ่าเสนอ คือจงใจสร้างความลำบากให้กับฉินชิง

หลิ่วฮุ่ยฟางก็พูดขึ้นมาอย่างลนลานทำอะไรไม่ถูก

"ไม่ได้สิ คุณพ่อ ไปทวงหนีกับพี่เป้านั่นต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเลยนะ"

"ถ้าเสี่ยวชิงไปทวงหนี้ แล้วถูกทำให้เสียโฉมขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน..."

ฉินหลันพอเห็นท่าก็พูดสร้างความลำบากใจขึ้นมา "คุณอา ไม่ไปก็ได้นะ แต่ครอบครัวของพวกอาก็คงจะพลิกกลับมาไม่ได้ทั้งชีวิตนั่นล่ะ"

ฉินชิงพอได้ยินก็หน้าขาวซีด

ชั่วขณะหนึ่ง ฉินชิงลังเลขึ้นมาแล้ว

ตอนนี้เอง หลี่เฟิงก็บีบมือเล็กของฉินชิง ป้องหูบอกไปว่า "คุณภรรยา รับปากไปเลย"

อะไรนะ?

ฉินชิงคิดว่าตัวเองฟังผิด

คิ้วงามของฉินชิงขมวด พูดเสียงต่ำออกมา "หลี่เฟิง เธอพูดอะไรออกมาน่ะ! นั่นมันพี่เป้าเลยนะ หนี้ก้อนนี้ทวงกลับมาไม่ได้หรอก!"

หลี่เฟิงกลับพูดอย่างหนักแน่น "คุณภรรยา เธอเชื่อใจชั้นสิ รับปากไปเลย ชั้นจะช่วยเธอเอากลับมาเอง"

  

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status